ลอดช่อง เป็นขนมหวานไทยแท้โบราณชนิดหนึ่ง เป็นขนมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยเรานี่เอง ที่ได้นำแป้งมันสำปะหลังมาปั้น และนวดให้เหนียว รับประทานกับกะทิสด และน้ำเชื่อม น้ำแข็งป่น ก็เพิ่มความสดชื่นให้กับผู้บริโภคได้แล้ว การทำลอดช่องนั้นยังมีการผลิตโดยใช้ข้าวเจ้าผสมกับสีสมุนไพรที่ได้จากธรรมชาติในท้องถิ่น ถือว่าปลอดภัยแต่ก็มีปัญหาเนื่องจากขั้นตอนการผลิตที่ไม่สะอาดพอ อีกทั้งประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน อาจเป็นสาเหตุทำให้ลอดช่องไม่สามารถเก็บไว้ได้นา เกิดการเน่าเสียง่ายเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคด้วย
แล้วลอดช่องสิงคโปร์คืออะไร ?
ลอดช่องสิงคโปร์ เป็นชื่อที่เรียกกันจนติดปาก เนื่องจากบริเวณที่ตั้งร้านนี้ ที่เป็นเจ้าแรก ในการทำ “ลอดช่องสิงคโปร์” นั่นเอง หากย้อนไปเมื่อประมาณหลายก่อน ร้านนี้ลอดช่องนี้บังเอิญไปตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงภาพยนต์สิงคโปร์ (เดิม) หรือโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราช และเมื่อลูกค้าจะไปทานก็มักจะเรียกว่า “ไปทานลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์” สุดท้ายก็เรียกให้สั้นลงว่า “ลอดช่องสิงคโปร์” ดังนั้นลอดช่องสิงคโปร์หาไม่ได้ที่สิงคโปร์นะ อย่าไปถามคนสิงคโปร์กันล่ะ เดี๋ยวได้งงทั้งเขาทั้งเราเลยทีเดียว
ส่วนผสมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนตัวของลอดช่อง และส่วนของน้ำกะทิ ที่เมื่อนำมาผสมกันจะได้รสชาติและสัมผัสที่ลงตัวอย่างมาก ทั้งอร่อย กลมกล่อม และสดชื่นในคราวเดียวกัน
ส่วนผสมลอดช่อง
- แป้งข้าวเจ้า 125 กรัม
- แป้งมัน 30 กรัม
- น้ำใบเตย 125 กรัม
- น้ำปูนใส 650 กรัมน้ำเย็นจัด
ส่วนผสมน้ำกะทิ
- น้ำตาลปี๊บ 320 กรัม
- หัวกะทิ 400 กรัม
- เกลือ 5 กรัม
- น้ำแข็งป่น
วิธีทำ
- นำแป้งข้าวเจ้าผสมเข้ากับแป้งมัน พร้อมทั้งเทน้ำใบเตยลงไป และคนจนน้ำใบเตยเข้ากับแป้ง เปิดไฟอ่อนและคนเรื่อยๆ
- จากนั้นเทน้ำปูนใสใส่ลงไป แล้วกวนจนน้ำใบเตยมีความเหนียวข้นและสีเขียวใส
- เทแป้งที่ผสมแล้วใส่ที่แม่พิมพ์กดเส้น จากนั้นให้เตรียมน้ำเย็น และกดเส้นลอดช่องใส่น้ำ เพื่อให้แป้งจับตัวเป็นเส้นลอดช่อง
- ต่อมาในส่วนของน้ำกะทิ ให้เคี่ยวน้ำตาลปี๊บ โดยผสมหัวกะทิลงไปพร้อมด้วย เปิดไฟอ่อนเพื่อไม่ให้กะทิเดือด และคนจะกว่าน้ำตาลจะละลาย เสร็จแล้วก็ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความมัน เสร็จแล้วยกลงจากเตา
- เตรียมแก้วใส่เส้นลอดช่อง ตักน้ำแข็งให้เต็มแก้ว จากนั้นก็เทน้ำกะทิตามลงไป
ขั้นตอนที่เยอะ แต่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด สามารถทำกันทานเป็นขนมหวานทานเล่นเป็นครอบครัว หรือตั้งโต๊ะทำขายในช่วงหน้าร้อนก็ขายดี เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วยังให้ความสดชื่นได้อีกด้วยนะ